คอลลินกำลังจะมา?
มุมมองของเฮนรี่
เช้าตรู่ฉันก็มาถึงสนามบินเพื่อรอฟลอร่าแล้ว เมื่อคืนฉันแทบไม่ได้นอนเลย
แล้วฉันก็เห็นฟลอร่าเดินมาพร้อมกับกระเป๋าเดินทาง เธอสวมกางเกงยีนส์ขาสั้นชายรุ่ยกับเสื้อกล้าม แล้วก็มีเสื้อเชิ้ตลายสก็อตผูกไว้ที่เอว เธอไม่ใช่คนตัวสูง แต่ก็ไม่ได้เตี้ย...ก็แค่ส่วนสูงกลางๆ เท่านั้น
เธอเป็นคนสวย มีผมหยิกสีส้มแดง ใบหน้าของเธอดูสว่างวาบขึ้นมาทันทีที่เห็นฉัน
“อ๊า!” เธอกรีดร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น ไม่ได้สนใจเลยว่าผู้คนจะมองเธอเหมือนคนสติไม่ดีหรือเปล่า
แล้วเธอก็ทิ้งกระเป๋าเดินทางแล้ววิ่งมาหาฉัน ฉันกางแขนออกยิ้มกว้าง เธอโผเข้าสู่อ้อมแขนฉันเต็มแรง ฉันรับเธอไว้ได้ทัน และถ้าไม่ใช่เพราะฉันทรงตัวเก่งพอ ป่านนี้คงล้มลงไปกองกับพื้นแล้ว
“จุ๊บ! จุ๊บ! จุ๊บ!” เธอเริ่มระดมจูบไปทั่วใบหน้าของฉัน
ใครๆ คงคิดว่าเราเป็นแฟนกัน
“พอแล้วๆ พอแล้วน่า!” ฉันพูดพลางปล่อยเธอลงยืนบนพื้น แต่เธอก็ยังกอดฉันแน่นอยู่
“ฉันคิดถึง...คิดถึง...คิดถึงนายจริงๆ นะ เฮนรี่” เธอพูดพลางซบศีรษะลงบนไหล่ของฉัน
“ฉันคิดถึงเธอมากกว่าอีก” ฉันกระซิบตอบ กอดเธอแน่น
นี่แหละคือเหตุผลที่ฉันรักฟลอร่า...เธอทำให้ฉันรู้สึกเหมือนได้อยู่บ้าน เธอเป็นคนเดียวที่ฉันรู้สึกสบายใจที่จะแสดงความอ่อนแอให้เห็นได้ และเธอก็เป็นแบบนั้นกับฉันเช่นกัน
เราคลายอ้อมกอดออกจากกัน ฉันใช้มือประคองใบหน้าของเธอแล้วบีบแก้มเบาๆ
“โอ๊ย สวยขึ้นเยอะเลยนะเราเนี่ย” ฉันแกล้งเย้า ส่วนเธอก็หัวเราะคิกคักตอบกลับมา
ฉันเดินผ่านเธอไปหยิบกระเป๋าเดินทาง
“เอาล่ะ เล่ามาให้หมดเลยนะว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง” ฉันพูดขณะที่เราเดินไปยังทางออก “เรื่องแฟนใหม่ของเธอเป็นไงบ้าง”
เธอเบ้ปาก “เหอะ! สรุปว่าเขามีเมียมีลูกแล้วสองคน แล้วก็แค่อยากได้ฉันเป็นกิ๊ก”
“อะไรนะ” ฉันถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ “เธอไม่เคยบอกฉันเรื่องนี้เลย”
“ก็...เพราะว่า...ตอนนั้นฉันอายเกินกว่าจะบอกนายน่ะสิ” เธอตอบ “เฮ้อ! ทั้งชีวิตฉันไม่เคยเจอเรื่องน่าอายขนาดนี้มาก่อนเลย เมียเขามาประจานฉันต่อหน้าคนอื่น ด่าทอแล้วก็หาว่าฉันเป็นพวกมือที่สามสารพัด”
“ฉันเสียใจด้วยจริงๆ ที่เธอต้องเจอเรื่องแบบนั้น” ฉันพูดอย่างรู้สึกผิด
“ไม่เป็นไรหรอก” เธอพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ฉันตัดใจจากเขาได้แล้ว”
“อยากให้กอดไหม” ฉันถามเมื่อสังเกตเห็นว่าตาเธอคลอไปด้วยน้ำตา “อยากให้ฉันจองตั๋วเครื่องบินไปกระทืบมันให้ไหม”
เธอหัวเราะออกมาเบาๆ “ไม่ต้องหรอก ไม่เป็นไร...แต่ฉันรักเขามากจริงๆ นะ”
“มานี่มา” ฉันดึงเธอเข้ามากอด ตบหลังเธอเบาๆ “ฉันอยู่ข้างๆ เธอนะ”
“ฉันรู้”
สักพักเราก็คลายอ้อมกอด
“แล้วแม็กกี้เป็นยังไงบ้าง” เธอถามพลางเช็ดน้ำตา “ก็...คงจะดีมั้ง”
“ฉันอยากไปเยี่ยมเธอ”
“ได้สิ...งั้นเดี๋ยวเจอกันคืนนี้นะ”
“ไม่ ฉันอยากให้นายไปด้วยกัน”
“หา? แต่ฉันจะไปทำงานสายนะ”
“น่า ไปกันเถอะ” เธอคว้าแขนฉัน ลากฉันขึ้นแท็กซี่ที่เธอโบก แล้วบอกคนขับให้ไปที่โรงพยาบาล
ตลอดทาง คนขับคงฟังเราคุยกันไม่หยุด ฟลอร่ากับฉันคุยกันจ้อจนกระทั่งถึงโรงพยาบาล
แววตาโล่งอกของเขาตอนที่เราลงจากรถนั้นเห็นได้ชัดเจน
เราเดินเข้าไปในโรงพยาบาลแล้วขึ้นลิฟต์ไปยังห้องของแม็กกี้
“ไง แม็กกี้!” ฟลอร่าร้องทักเสียงใส เดินตรงไปที่เตียงเพื่อกอดแม็กกี้
สีหน้าของแม็กกี้เปล่งประกายขึ้นมาทันที
แหม ฟลอร่า กลับมาเมื่อไหร่เนี่ย” แม็กกี้ถามขณะที่ฟลอร่าผละออกจากอ้อมกอด
“เที่ยวบินฉันเพิ่งลงจ้ะ เลยตัดสินใจมาเยี่ยมเธอก่อนกลับอพาร์ตเมนต์” ฟลอร่าตอบ
“โอ๊ย น่ารักจังเลย” แม็กกี้เอ่ย
“ดูสิว่าฉันซื้ออะไรมาให้... หนังสือการ์ตูน... แนวเผ็ดๆ... เกมปริศนา แล้วก็นิตยสารแฟชั่น” ขณะที่พูด เธอก็หยิบของออกจากกระเป๋ามาทีละชิ้น
“เธอน่ารักที่สุดเลยฟลอร่า” แม็กกี้กล่าวอย่างขอบคุณ “มานี่สิ ให้ฉันหอมแก้มหน่อย”
ฟลอร่ายื่นแก้มเข้าไปใกล้ๆ แล้วแม็กกี้ก็หอมแก้มเธอฟอดหนึ่ง
“ไงครับ พี่แม็กกี้” ผมพูดพลางเดินเข้าไปใกล้ “เป็นไงบ้างครับ ดีขึ้นแล้วใช่ไหม”
“หมอบอกว่าฉันฟื้นตัวเร็วมาก แล้วถ้าการรักษาคืบหน้าไปด้วยดี อีกเดือนเดียวก็อาจจะได้ออกจากที่นี่แล้ว”
ข่าวดี! รีบกลับมาทำงานแทนผมทีเถอะ! ขอบคุณนะ แต่ไม่เอาดีกว่า!
“เยี่ยมไปเลยครับ”
“แล้วเจ้านายใหม่เป็นไงบ้างล่ะ” เธอถาม ฟลอร่ากับผมจึงเหลือบมองหน้ากัน
แต่แม็กกี้ก็ทันเห็นสายตาที่เราส่งให้กัน ไม่มีอะไรเล็ดลอดสายตาเธอไปได้เลย
“เขา... เอ่อ... ก็เป็นคนเฮงซวยน่ะครับ แต่เงินดี ก็เลย...” ผมปล่อยประโยคค้างไว้แล้วยักไหล่
“มีอะไรบางอย่างที่พวกเธอไม่ได้บอกฉันใช่ไหม” เธอถามพลางชำเลืองมองสลับระหว่างฟลอร่ากับผม
“อะไรนะครับ ไม่! ไม่มีอะไร ทุกอย่างเรียบร้อยดีครับ”
“โอเค ถ้าพวกเธอยืนยันแบบนั้น” เธอบอกพร้อมกับยักไหล่ “เดี๋ยวฉันก็รู้เองอยู่ดี”
แล้วเธอก็รู้จริงๆ ด้วยทุกที! เชื่อผมสิ!
“เคนดัลล์ไปไหนเหรอ” ฟลอร่าถาม
เคนดัลล์เป็นภรรยาของแม็กกี้ เอาจริงๆ คือเธอไม่ชอบขี้หน้าผมเลย ตอนที่แม็กกี้เจอผมข้างถนนเมื่อหลายปีก่อนแล้วพาเข้าบ้าน เคนดัลล์คัดค้านหัวชนฝา เธอเกลียดผมเข้าไส้
ผมเกือบทำชีวิตแต่งงานของพวกเขาพัง แต่แม็กกี้ก็ยืนกราน และเชื่อหรือไม่ว่าสุดท้ายแม็กกี้ก็เป็นฝ่ายชนะ ผมเลยได้อยู่ที่นี่ นั่นคือเหตุผลที่ผมเป็นหนี้บุญคุณแม็กกี้ไปตลอดชีวิต เธอเป็นคนที่มีจิตใจดีงามจริงๆ
ใครๆ ก็คงคิดว่าเวลาจะทำให้เธอชอบผมขึ้นมาบ้าง แต่เปล่าเลย ยิ่งเห็นหน้าผม เธอก็ยิ่งเกลียด
อ้อ แล้วเธอก็ไม่ชอบฟลอร่าด้วยเหมือนกัน เธอเกลียดทุกอย่างที่เกี่ยวกับผม
“โอ้ เดี๋ยวเธอก็กลับมาแล้วล่ะ” แม็กกี้ตอบ “ฉันใช้ให้เธอไปทำธุระน่ะ”
งั้นผมต้องรีบไปก่อนที่เธอจะกลับมาแล้วส่งสายตาพิฆาตที่ผมเกลียดนักหนามาให้
“เอ่อ ผมต้องไปแล้วล่ะครับ” ผมพูดพลางก้มลงจูบหน้าผากแม็กกี้ “แล้วเจอกันนะครับ”
“อ้อ เฮนรี่จ๊ะ” แม็กกี้เรียกไว้ ทำให้ผมหยุดชะงัก
“ครับ?”
“ช่วยอะไรฉันหน่อยได้ไหม”
“อะไรเหรอครับ”
“คอลลิน หลานชายฉันจะบินมาถึงคืนนี้ เธอช่วยไปรับเขาตอนมาถึงหน่อยได้ไหม” เธอถาม “คืออย่างนี้นะ เคนดัลล์กับฉันจะอยู่ที่นี่ เลยไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อนเขาที่บ้าน ช่วยไปรับเขาจากสนามบินแล้วก็อยู่เป็นเพื่อนที่บ้านฉันสักสองสามวันได้ไหม”
หัวใจผมหล่นวูบ คอลลินจะมาเหรอ ไม่นะ!
“ได้สิครับ” ผมฝืนยิ้มให้เธอ “แน่นอน เพื่อพี่แม็กกี้แล้ว อะไรผมก็ทำให้ได้ แล้วเจอกันนะฟลอร่า”
“แล้วเจอกันเฮนรี่”
ผมเดินออกจากประตูแล้วตรงไปที่ลิฟต์
คอลลินจะมางั้นเหรอ พระเจ้า! ให้ตายสิ ช่วงนี้มันเกิดเชี่ยอะไรกับผมวะเนี่ย อย่างแรกก็เพิ่งรู้ว่าคู่ขาคืนเดียวของผมคือเจ้านายตัวเองแถมยังเป็นผู้ชายแท้อีกต่างหาก ตอนนี้มาเจอเรื่องคอลลินอีก! ผมว่าผมรับไม่ไหวแน่ถ้าต้องเจอหน้าคอลลิน! ไม่ใช่หลังจากเรื่องที่เคยเกิดขึ้นระหว่างเราสองคน







































